วันนี้ไปเปิดบัญชีกองทุนของ กสิกรมาคับ วันแรก ครั้งแรกและครั้งเดียว

วันจันทร์ที่ 9 มิ ย 57 เวลาระมาณ 09.45 ผมได้ไป 

เปิดบัญชีกับ ธ กสิกรไทย 

บรรยากาศ เข้าไปครั้งแรก คนเหมือนจะเยอะมากตอนมองไกลๆ แต่พอเข้าไปข้างใน ก็ ไปคุยกับ พี่พนักงานที่ อยู่ทางซ้ายมือของ สาขา 
ผม เข้าไปครั้งแรกเลยบอกว่า จะมาเปิดบัญชีกองทุนคับ ต้องทำอย่างไร
จนท ออ ต้อง นำ บัตร ปชช กับ สมุด เงินฝากออมทรัพย์ คะ 
ผม ส่งให้เลยเพราะ อ่าน มาเยอะ เตรียมตัวไปจะได้ไม่เสียเที่ยว อ่าน จาก พันทิปนีแหละคับ 
จนท ส่งเอกสารให้กรอก เซ็นต์ตรงนี้คะ 
ผม เซ็นต์ๆ ชื่อ ผมถาม สมัคร k cyber invest ให้เลยได้ไหม คับ
จนท ไม่ได้คะ ไม่สามารถเข้า อินเตอร์เน็ตได้ คะ
ผม คิดในใจเห้ยจิงเปล่าวะ  ผมบอกว่า ไม่เป็นไรคับ 
จนท ต้องใช้เงินเปิดบัญชี ห้าพันบาทแล้วซื้อเลยนะคะ
ผม เดินออกไป นอก ธ  มี บัตรของ ทหารไทย กดฟรีไม่ต้องเสีย ค่าธรรมเนียม กดมา ห้าพันบาทถ้วน
จนท ต้องซื้อหน่วยลงทุนเลยนะคะ ซื้อตัวไหนดีคะ
ผม  บอกเขาไปว่า ltf คับ 
จนท เอา ตาราง กองทุนมาให้ดู ltf ต่ำสุด 16.64 มากสุด 28.90 (แพงเอาเรื่อง) จนท บอกว่าดูตราสารหนี้ ระยะสั้น k money คือ เคตลาดเงินอะคับ ซื้อ 11.46 ณ วันนี้ ความเสี่ยง 2 
ผม งั้นก็ ได้คับ เลยตกลงซื้อไป ในใจคิดว่าค่อยซื้อตัวอื่น ใน เค อินเวส ก็ได้ 
จนท เอาสมุดกองทุนมา ให้เซ็นต์ชื่อ 
ผม เซ็นต์ทุกอย่าง เรียบร้อยดี ไม่มีปัญหา ขอบคุณกันยกใหญ่

ออมก่อนรวยก่อนนะคับ 

ก้าวไปทีละขั้น เล็กน้อยที่ยิ่งใหญ่คับ
และจะมาต่อในบทความ เปิดบัญชีกับ ME ของ TMB นะคับ ซึ่ง สามารถทำได้ที่ บ้านสะดวกและดอกเบี้ยสูงคับ 

10 สิ่งที่ทำร้ายจิตใจเด็กได้มากที่สุดคืออะไร

เรามาดูกันดีกว่าว่า 10 สิ่งที่ทำร้ายจิตใจเด็กได้มากที่สุดคืออะไร


   อันดับ 10 ... เมื่อเด็กทำความดีผู้ใหญ่กับเมินเฉย หรือมีความรู้สึกยินดีเพียงชั่วขณะ

                        ผู้ใหญ่หลายท่านมักคิดเสมอว่ามันเป็นเรื่องน่ายินดีที่ลูกของคุณประสบความสำเร็จอะไรสักอย่าง คุณแสดงความยินดีเก็บเด็กเพียงเล็กน้อย แต่หลังจากนั้นคุณก็แทบจะลืมมันออกไปจากสมองโดยทันที สิ่งที่ทำให้คุณจะนึกถึงเรื่องของเด็กขึ้นมาได้ก็ต่อเมื่อคุณอยากโอ้อวดสิ่งนั้นกับบุคคลอื่น ซึ่งการกระทำเช่นนี้จะทำให้เด็กมีความรู้สึกที่ไม่ภาคภูมิใจกับสิ่งที่ได้มา


   อันดับ 09 ... สิทธิของเด็กในสถาบันครอบครัว การแสดงความคิดเห็นของเด็ก     

                   ผู้ใหญ่หลายท่านในประเทศไทยมักจะจำกัดสิทธิของเด็กโดยสิ้นเชิง (รวมไปถึงหลายๆ สถาบัน) พ่อ แม่ ครู สามารถไม่พอใจกับสิ่งที่เด็กประพฤติไม่ดีได้ แต่เด็กร้อยละ 90 ไม่สามารถแสดงอาการไม่พอใจออกมาได้เมื่อผู้ใหญ่ประพฤติผิด เพราะอะไร... เมื่อเด็กแสดงอาการออกมาเด็กจะถูกว่า ถูกดุ ว่าทำตัวไม่เหมาะสม ทำไมผู้ใหญ่ถึงดุเมื่อเด็กแสดงอาการอย่างนั้นเนื่องจากในใจลึกๆ ผู้ใหญ่ก็ไม่ชอบให้ใครมาติเตียนแสดงอาการไม่พอใจใส่ แล้วเด็กละ...??? เด็กก็รู้สึกแบบนั้นเช่นกันแต่เด็กห้ามทำ ข้อสังเกตเมื่อเด็กเบื่อหน่ายที่จะแสดงความคิดเห็น คือเด็กจะพูดน้อยลง เมื่อคุณถามสิ่งที่ต้องเลือก เด็กจะตอบกลับมาว่า "แล้วแต่" 


  อันดับ 08 ... การรื้อฟื้นเรื่องเก่าๆ ขึ้นมาพูด หรือนำมาว่ากล่าวซ้ำ

                        ผู้ใหญ่ส่วนมากเวลาเด็กทำผิดแล้วจะว่ากล่าวนั้น น้อยคนมากที่จะดุเฉพาะเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้น หรือเรื่องที่ทำผิด เมื่อเริ่มว่าเรื่องที่เกิดขึ้นจบไป ผู้ใหญ่ก็จะใส่อารมณ์มากขึ้นราวกับได้ระบายอารมณ์ ผู้ใหญ่ส่วนมากจะรื้อฟื้นเรื่องเก่าๆ ที่เด็กทำผิดมาว่าซ้ำ ซ้ำเติม และพูดได้เลยว่าผู้ใหญ่ร้อยละ 50 ที่แสดงอาการแบบนี้จะหยุดก็ต่อเมื่อเด็กเกิดอาการเสียใจ ถ้าเด็กยังแสดงอาการเฉยๆ หรือต่อต้านไม่มีทางหยุดง่ายๆ แน่นอน ซึ่งการทำแบบนี้จะทำให้เด็กเกิดความรู้สึกเจ็บใจ โกรธ แต่ไม่สำนึกอย่างแน่นอน


   อันดับ 07 ... การเป็นที่ปรึกษาที่ไม่ดี เปิดเผยความลับของเด็กแก่คนอื่น

                        ทุกวันนี้ในสังคมไทยเด็กจะเลือกปรึกษาปัญหากับเพื่อนก่อนเป็นอันดับแรก อันดับสองคือพี่น้อง อันดับสามคือบุคคลในอินเตอร์เน็ต ส่วนอันดับสี่ถึงจะเป็น พ่อ แม่ ทำไมผู้ใหญ่ในสถาบันครอบครัวถึงกลายเป็นอันดับสี่ไปได้ทั้งๆ ที่ควรจะเป็นอันดับหนึ่ง หรือสองนั่นก็เพราะคำว่า แก้ปัญหาไม่เป็น ไม่ได้ช่วยอะไร และ สามี-ภรรยา ไม่มีความลับต่อกัน - - - แก้ปัญหาให้ลูกไม่เป็น คือก็ไม่รู้จะช่วยยังไง - - - ไม่ได้ช่วยอะไร คือ การที่บอกวิธีในการแก้ปัญหามาแต่เมื่อทำไปแล้วไม่ได้เกิดการเปลี่ยนแปลง - - - สามี-ภรรยา ไม่มีความลับต่อกัน อันนี้คือสาเหตุหลักความลับคือสิ่งที่เด็กไม่อยากให้คนจำนวนมากรู้ ถ้าเด็กเลือที่จะบอกแม่ ร้อยละ 80 ของครอบครัวชาวไทย พ่อต้องรู้ด้วยแต่เป็นการรู้จากการที่แม่เป็นคนไปบอกอะไรทำนองนี้ การทำแบบนี้จะทำให้เด็กเกิดความรู้สึกไม่ไหววางใจ ไม่เชื้อใจพ่อและแม่


   อันดับ 06 ... อารมณ์เสียใส่เด็ก เหวี่ยงใส่เด็ก หาเรื่องว่าเด็ก

                        ผู้ใหญ่มักจะไม่รู้ตัวเมื่ออารมณ์เสียแล้วชอบหาเรื่องว่าคนอื่น โดยเป๋าหมายส่วนใหญ่จะเป็นเด็กเนื่องจากมีการตอบโต้ที่น้อย จากเรื่องเล็กที่เป็นข้อผิดพลาดนิดหน่อยจะกล่าวเป็นความผิดร้ายแรงได้ทันที อย่างเช่น ลืมล้างจาน โดนว่าพอว่าเสร็จก็จะวกไปเข้าอันดับ 08 รื้อฟื้นเรื่องเก่ามาว่าต่อ การกระทำแบบนี้จะทำให้เด็กรู้สึกว่า พ่อแม่ไม่มีเหตุผล จึงไม่จำเป็นที่จะต้องเชื้อถือ

   
  อันดับ 05 ... ด่าเด็ก พูดจารุนแรง

                        ผู้ใหญ่มักเถียงว่าสิ่งที่พวกเขากระทำคือการดุ ว่ากล่าวตักเตือน ไม่ใช่การด่า แต่ลองมาทำความเข้าใจกันสะใหม่ การว่ากล่าวตักเตือนคือ ก็อธิบายผลเสีย และอธิบายแนวทางแก้ไขให้ การดุ คือ การอธิบายถึงผลเสียอย่างเดียว แต่การด่า คือ การใช้ถ่อยคำหยาบคาย "" "กู" ใช้วาจาส่อเสียดประชดประชัน "คิดว่าตัวเองเป็นเทวดารึไง" ทำนองนี้ พิจรณาตัวเองแล้วกันว่าเข้าค่ายหรือไม่ เพราะการทำอย่างนี้จะทำให้เด็กฝังใจ เด็กจะไม่มีความสำนึกผิด หรือจะไม่ทำอีกแล้วนะ แต่เด็กจะคิดว่าในครั้งต่อไปจะต้องทำโดยห้ามโดนจับได้


  อันดับ 04 ... การทำร้ายความมั่นใจของเด็ก

                        ผู้ใหญ่หลายคนมักทำลายความมั่นใจของเด็กโดยไม่รู้ตัว พูดถึงข้อด้อยของเด็กในที่สาธรณะหรือต่อหน้าผู้คนจำนวนมาก การไม่เตรียมพร้อมของผู้ใหญ่ก็อาจจะทำให้เด็กเสียความมั่นใจได้ เช่น พาเด็กไปยังสถานที่เรียนพิเศษ แห่งหนึ่งแล้วก็ปล่อยเด็กไว้กับครูและเด็กคนอื่นๆ ส่วนตัวเองก็กลับไปทำธุระของตน ในสถานะผู้ใหญ่คุณอาจจะคิดว่ามีเด็กตั้งเยอะแยะลูกเราไม่ได้อยู่คนเดียว แต่ในความคิดของเด็กคนที่ไม่รู้จักเท่ากับเขาไม่มีตัวตน การกระทำแบบนี้จะทำให้เด็กกลายเป็นคนขาดความมั่นใจ

   
  อันดับ 03 ... การตอกย้ำซ้ำเติมความผิดพลาด

                        พ่อแม่จำนวนมากมักคิดว่าการดุ การด่า พูดจาซ้ำเติม คือวิธีของการที่จะทำเห็นเด็กจดจำและเรียนรู้ความผิดพลาด แต่ไม่ใช่เลยวิธีที่ถูกต้องที่สุดคือ การปลอบเมื่อเขาทำผิดพลาด แล้วค่อยอธิบายข้อผิดพลาดว่าเกิดจากอะไร มีผลเสียยังไง มีวิธีการแก้ไขแบบไหน เพราะการตอกย้ำนั้นจะทำให้เด็กรู้สึกฝังใจ กลัวต่อการเปลี่ยนแปลงต่างๆ กลัวความผิดพลาดจนกลายเป็นคนขี้ระแวงได้

  
อันดับ 02 ... การใช้ความรุนแรง

                        เชื่อเถอะมันหมดยุคของ ไม้เรียวสร้างคนแล้ว ตีให้ตายเด็กสมัยนี้ก็ไม่เปลี่ยนแปลงหรอก แต่จะเป็นการซ้ำเติมให้เด็กมีปมภายในใจหนักขึ้นไปอีก ความรุนแรงที่พ่อแม่ทำกันเอง หรือความรุนแรงที่พ่อแม่ทำต่อเด็กล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่ไม่ดีทั้งสิ้น การทำแบบนี้จะยิ่งทำให้เด็กเิกิดอาการต่อต้านหนักขึ้นไปอีก และในอนาคตเด็กอาจจะเป็นบุคคลที่ใช้ความรุนแรงก็เป็นได้

   
  อันดับ 01 ... คิดเอง เออเอง และไม่เข้าใจลูกของตัวเอง
 ผู้ใหญ่หลายท่านมีบททดสอบง่ายๆ เลยที่จะให้ทุกท่านทำ หยิบกระดาษขึ้นมาแผ่นหนึ่งแล้วหาคำตอบต่อไปนี้ 
1.ลูกมีเพื่อนสนิทชื่ออะไร
2.ลูกชอบกินอะไร 
3.ลูกไม่ชอบกินอะไร 
4. สีโปรดของลูก 
5.ลูกไปเที่ยวกับครอบครัวครั้งล่าสุดเมื่อไหร่ 
6.เบอร์โทรศัพท์ของลูก 
7.ลูกไม่อชบสิ่งมีชีวิตอะไรมากที่สุด
8.ของขวัญชิ้นล่าสุดที่ซื้อให้ลูกคือ 
9.ลูกเกิดวันไหนเดือนอะไรปีไหน 
10.โตขึ้นลูกอยากเป็นอะไร ตอบคำถาม 10 ข้อต้องถูก 8 ข้อขึ้นไปคุณถึงจะเป็นพ่อแม่ที่รู้จักลูกตัวเองจริง

                       

10 วิธีกอดสาว แบบเนียนๆ

10 วิธีกอดสาว แบบเนียนๆ

        สวัสดีคับท่านผู้อ่านที่เคารพ ผมมีเวลาว่างๆ ก็เลยมาเขียนบทความสักหน่อยพอจะเป็นเรื่องผ่อนคลายสำหรับ ผู้ชายหรือสุภาพบุรุษที่ ไม่มีมุขจะแอบกอดสาวๆ ผมก็มีวิธี มาให้พิจารณาดู เพื่อความบันเทิงหรือความสนุก อย่าคิดว่าเป็นการฉวยโอกาศและขอให้ผู้อ่านที่เป็น สุภาพบุรุษให้เกียรติ สุภาพสตรีด้วยนะคับ พร้อมแล้วมารับดู รับชม ได้เลยคับ

10 วิธีกอดสาว แบบเนียนๆ

1. ดู หนังผีมีลุ้นมุขนี้ถือว่าเป็นหนึ่งในบรรดาสุดยอดเคล็ดวิชาที่จัดขึ้น หิ้งมุขคลาสสิคได้เลย ถึงแม้เหล่าคุณเธอส่วนใหญ่จะรู้ทันกับมุขควายๆ ง่ายๆ แบบ นี้ แต่ที่ไหนมีผีจำไว้ให้ดีว่าที่นั่นมีลุ้น หลักการง่ายนิดเดียว ท่องไว้ว่า ” ผีโผล่เธอโผกอด” อ้าาาา เหมือนจะง่ายใช่มั้ย แต่อย่าเพิ่งด่วนสรุปอย่างนั้น เพราะยังมีผู้หญิงจำนวนไม่น้อยที่ไม่กลัวผีในจอ พวกเธอเหล่านี้จิตแข็งพอที่จะ แยกแยะออกว่ามันก็แค่คนทาขอบตาดำๆ ทำตัวแข็งๆ ก็เท่านั้น ในกรณีนี้แนะนำให้ข้าม ไป level 2 คือ พาเที่ยวบ้านผีจริงๆซะเลย แล้วถ้าผีจริงยังเอาไม่อยู่ ให้คุณลอง พิจารณาดูใหม่ว่าเธอหรือผีกันแน่ที่น่ากลัวกว่ากัน

2. Hero กำมะลอ อันนี้เป็นอุบายตื้นๆ ที่เห็นในหนังไทยทั่วไป วิธีการคือไหว้วาน เพื่อนคุณสักคนสองคนที่ไว้ใจได้ และมีวิญญาณนักแสดงนิดหน่อย เข้ามาลวนลามทาง วาจากับเธอ เมื่อนางเองกำลังตกอยู่ในที่นั่งลำบากก็ถึงคิวพระเอกอย่างคุณที่จะ ต้องขี่ม้าขาวมาช่วยเธอ อย่ารีรอ รีบเข้าไปโอบกอดเธอเสมือนคุณนั้นเป็นเจ้าข้าว เจ้าของ แล้วพูดว่า “เฮ้ย ยุ่งอะไรกับแฟนผมวะ” เมื่อเหล่าร้ายเตลิดไปแล้ว ให้ รีบเปลี่ยนบทกลับมาสู่ชีวิตจริงทันที “เออ ขอโทษที เมื่อกี๊ไม่ได้ตั้งใจ จริงๆ แล้วผมก็กลัวมากเลยนะ” เธอจะยิ้มหน้าแดงพร้อมกับตบไหล่คุณแก้เขิน แล้วพูดว่า ” ไม่เป็นไรหรอก ก็เธออุตส่าห์ช่วยเรานิ่” โป๊ะเช๊ะ ! ตามสูตรทุก ประการ

3. ซ้อนท้าย สบายแฮ หาวันดีๆชวนเธอไปขี่จักรยานหรือมอเตอร์ไซค์เล่นกัน แต่ต้องระลึก ไว้เสมอว่าคุณคือคนเมา เมาไม่ขับซ้อนได้อย่างเดียว ยิ่งเธอขี่ไม่แข็งเท่าไหร่ ยิ่งดี ทำตัวเป็นสุภาพบุรุษเอื้อมมือไปช่วยบังคับแฮนด์ซะแล้วแตะเบรคหน้าถี่ๆ ที นี้ละพ่อ! นอกจากกอดแล้วยังได้ดมขี้หูขี้หัวถูไถกันให้ชื่นใจไปอีก แต่ก็ดูให้ดี หน่อยอุบายแบบนี้เหมาะกับการขี่ที่ความเร็วต่ำและถนนโล่งเรียบ ไม่งั้นอาจได้กอด กันยิ้มแฉ่งเป็นคางคกแบนทั้งคู่

4. สิ่ง ประหลาดล้านชนิด สืบมาให้ได้ว่าเธอกลัวสิ่งประหลาดประเภทไหน จิ้งจก หนู แมลงสาบ แมงมุม ตุ๊กแก งู ฯลฯ หาสิ่งเหล่านี้มาไม่ว่าจะเป็นแบบจำลองหรือตัว เป็นๆ เลือกใช้ในสถานการณ์ที่อยู่กันคนน้อยๆ ปล่อยมันออกมาแล้วรีบคว้าจังหวะที่ เธอปี๊ดป๊าดกระตู้วู้เข้าไปโอบกอดให้ปลอดภัย แต่ในกรณีที่เธอกลัวสิ่งประหาดที่ มีอันตรายมากๆ อย่างเช่น งูเกี้ยง ไม่ขอแนะนำให้ปล่อยมันอออกมาเด็ดขาดเพราะคุณ อาจได้นอนกอดมุ้งสายบัวแทนตัวเธอก็เป็นได้

5. ปลาตอดหนุ่บหนับ หาวันหยุดดีๆ ชวนเธอไปทะเลสวยๆ น้ำใสๆ แล้วลงไปเล่นน้ำ กัน พยามว่ายไปในจุดที่ระดับน้ำสูงประมาณอก ดำน้ำลงไปแล้วใส่วิญญาณปลาหมึกว่าย เข้าปล่อยหนวดหนุ่บหนับตามแข้งขา แต่จำไว้ว่าอย่าตระกละ ตอดทีละนิดเพื่อให้เธอ เห็นว่าเราขี้เล่นเป็นตัวไม่มีพิษภัย จากนั้นค่อยไปที่ level สูงๆ ไต่ขึ้นไปที ละหน่อย ตอดหนุ่บหนับๆบ่อยๆไปเรื่อย แต่ระวังไว้อย่าง ถ้าทะเลแถวนั้นหนาแน่นไป ด้วยผู้คนต้องหาพิกัดจุดยืนของเธอให้แน่นอน ไม่งั้นไปกอดขาเมียชาวบ้านเดี๋ยวได้ อาหารว่างเป็นแข้งผัวชุบน้ำเกลือ

6. mascot กอดเพลิน ความน่ารักของเจ้าตัว mascot มีแรงดูดสาวๆและเด็กเสมอ ยิ่ง เป็นชุดสวมด้วยแล้วยิ่งมีเสน่ห์เข้าไปใหญ่ สิ่งที่คุณต้องทำคือหาชุด mascot น่า รักๆสักตัวมาสวมในโอกาสพิเศษที่เกี่ยวข้องกับเธอไม่ว่าจะเป็นวันเกิด วันรับ ปริญญา วันฉลองได้รับตำแหน่งใหม่ แต่งานศพว่าที่พ่อตาแม่ยายหรือญาติโกโหติกาของ เธออย่าทะลึ่งใส่ไปล่ะ อัตราโดนถีบมีเยอะกว่ากอด และที่สำคัญต้องระวัง mascot บางอย่างที่ให้ความหมายส่อเจตนามืด เช่น mascot ถุงยางอนามัย

7. ขาเพลง สำแดงผล ถ้าคุณเคยมีอาการขาแพลงมาก่อนคงแหลได้ไม่ยาก เริ่มจากนึกถึง ความเจ็บปวดในช่วงนั้นแล้วดึงมันออกมาให้ได้ ใส่ความอ่อนแองอแงเข้าไปเยอะๆ แต่ อย่าลืมว่าสถานการณ์เป็นสิ่งสำคัญไม่น้อย หาจังหวะดีๆตอนทำกิจกรรมอยู่ใกล้ๆเธอ แล้วค่อยออกอาการ อาทิ เดิน วิ่ง เล่นกีฬา อย่าไปทะลึ่งขาแพลงตอนนั่งกินหมี่ เกี๊ยวล่ะ น่าสงสัย เมื่อออกอาการแล้วให้นั่งทุรนทุรายนานๆหน่อยอย่ารีบลุก รอจน กว่าเธอจะมาประคองแล้วค่อยพยุงตัวขึ้น จะกอดเอวกอดคอก็ตามสบายเลยพ่อ คุณ

8. เสื้อกัน ฝนสุภาพบุรุษ ถ้าฤดูฝนย่างเท้าเข้ามาจำไว้ว่าอย่าพกร่ม ให้พกเสื้อกันฝน อย่างเดียว ข้อดีของเสื้อกันฝนก็คือเราสามารถกางมันออกมาคลุมให้คนที่เราหมายปอง ได้ และจังหวะที่คลุมหัวนั้นคุณสามารถหาเศษหาเลยไปกับอาการเก้ๆกังๆ กำลังดึงชาย เสื้อได้อย่างแนบเนียน หมั่นดึงชายเสื้อบ่อยๆ ได้กอดอังๆหน่อยก็ยัง ดี

9. สะดุด ลม ไม่ว่าจะอยู่ในงานรื่นเริงไหนๆก็สามารถใช้ท่านี้ได้เสมอ แค่ทำขาอ่อน ไหวไวต่อความรู้สึกเจออะไรก็สะดุดจึ๊กๆไว้ก่อน โอเวอร์แอ็คชั่นมากๆยิ่งดีใหญ่ ไถลตัวเข้าไปอยากกอดเธอตรงไหนก็เลือกเอา แต่ขอให้ถือความหน้าด้านเป็นที่ ตั้ง

10. เหินฟ้า ท้ากอด กอดคนอื่นเป็นเรื่องง่าย แต่ทำให้เขากอดเรานี่สิยาก แนะนำให้เอา วิธีนี้ไปใช้กันครับ เพียงแค่คุณหาที่สูงและหวาดเสียวสักแห่ง ขึ้นไปยืนบนนั้น แล้วประกาศออกมา “ผมอยากตาย” รอเวลาอีกนิดหน่อยให้ตำรวจเดินทางมาถึงแล้วยื่นข้อ เสนอต่อรอง บอกเขาไปว่าอยากเจอหน้าคนรักหรือคนที่กำลังแอบรัก แต่ต้องเตรียม เบอร์โทรของเธอ เลือกสถานที่ให้ใกล้ย่านที่เธอพักอาศัยและตรวจตราวันเวลาให้ รอบคอบว่าเธอไม่ไปไหนไกลแน่นอน เท่านี้ก็เตรียมวงแขนอุ่นๆของคุณไว้กอดได้เลย แต่ถ้าพลาดตกลงมาตายห่าก่อนก็ซวยไป เขียนความต้องการสุดท้ายใส่กระเป๋ากางเกงไว้ ก็ดีเผื่อเธอจะได้มากอดส่งวิญาณ

    สุดท้ายนี้ สุภาพบุรุษควรให้เกียรติสุภาพสตรี ด้วยนะคับ ขอฝากบทความอื่นๆๆและ ติชมได้นะคับ

ทำไมต้อง Windows Azure

Windows Azure คืออะไร

          Windows Azure คืออะไร Azure (อ่านว่า อะซัว) เป็น Platform ระบบปฏิบัติการสำหรับระบบคลาวด์ของไมโครซอฟท์ (Microsoft) 
          Windows Azure เป็น Solution ที่เข้ามาจัดการในรูปแบบของ Application ที่ทำงานผ่านระบบ Internet ความเร็วสูง ที่ต้องการความเสถียร มาตรฐาน และความปลอดภัย เช่น ปกติแล้วเรามีเว็บไซต์ หรือพื้นที่จัดเก็บข้อมูลบน Server เราก็จะต้องมี Domain และ Host / FTP แบบ Shared หรือใช้แบบ Delicate Server , VPS ซึ่งปัญหาที่เราพบเจอก็คือ ปัญหาการล่มของเว็บไซต์ อาจจะเกิดจาก ปัญหาจาก Data Center , Server หรือ ปัญหาจากการโหลดของ Server เนื่องจากโปรแกรมและ Database มีขนาดใหญ่ขึ้น และปัญหาอื่นของ Data Center ในประเทศไทย
           Windows Azure ออกแบบรองรับทั้ง Microsoft Visual Studio และมาตรฐานหรือภาษาโปรแกรมมิ่งต่างๆ ที่ได้รับความนิยม เช่น SOAP, REST, XML, Java, PHP และ Ruby ในการใช้งาน Windows Azure เราสามารถที่จะใช้งานด้วยการย้ายโปรแกรมของเราไปใช้งานบน Cloud ได้ทันที โดยไม่ต้องปรับแต่งหรือเรียนรู้สภาพแวดล้อมใหม่
       โดยบริการหลัก ๆ ก็เช่น Web Sites  , Virtual Machines  ทั้ง Windows และ Linux, Cloud Services  , Mobile Services และก็มี Service อื่น ๆ
โดยบริการ Cloud Service ดังกล่าวทั้งหมดนี้เราเรียกภายใต้ชื่อว่า Windows Azure โดย Service ทั้งหมดจะตั้งอยู่ที่ Data Center ของ Microsoft ทำให้มีความน่าเชื่อถือเสถียรในการใช้งานและความปลอดภัยสูง เว็บไซต์ที่ใช้บริการของ Windows Azure
        Windows Azure เป็นในลักษณะของ SaaS 
(Software As A Services) ใช้แค่ไหนก็จ่ายเท่าจำนวนเงินที่ใช้ ควบคุม Budget ได้ด้วยตัวเองสามารถเลือกที่จะใช้ Service ที่เราคุ้นเคยได้ เช่น Virtual Machines ในกรณีที่เรามีเว็บไซต์ที่รันด้วย Linux , PHP และ MySQL เราก็สามารถเลือกที่จะติดตั้งและใช้งาน Linux , PHP และ MySQL ได้เช่นเดิมอาจจะปรับรูปแบบการเข้าถึงและจัดการเพียงเล็กน้อย
        การทำงานของ Windows Azure กับการพัฒนา Application บน Windows AzureWindows Azure Services สามารถใช้งานร่วมกับโปรโตคอลมาตรฐานต่างๆ ของเว็บ เช่น Representational State Transfer (REST) และ Simple Object Access Protocol (SOAP) สำหรับในด้านการใช้งานนั้น สามารถใช้งานในลักษณะแบบส่วนบุคคลหรือใช้งานร่วมกันเป็นทีมใช้ในการสร้างแอพพลิเคชันใหม่หรือขยายแอพพลิเคชันที่มีอยู่แล้วก็ได้
         Data Center เป็น International เพราะฉะนั้นจะเป็นผลดีในการเข้าถึงข้อมูลได้จากทั่วโลก การทำการตลาดของกลุ่มเป้าหมาย ในประเทศต่าง ๆ ได้เพิ่มโอกาสทางธุรกิจในต่างประเทศ และรักษามาตรฐานการเชื่อมต่อกับข้อมูลที่เป็นมาตรฐานไม่ต้องกลัวข้อมูลศูนย์หาย เพราะ Windows Azure มี Node อยู่หลายแห่ง คือในกรณีที่เกิดปัญหาขึ้นกับแห่งใดแห่งหนึ่ง Node อื่น ๆ จะสามารถทำงานแทนกันได้ทันทีอัตราการ Downtime หรือ Server ล่มนั้นน้อยมาก เพราะมีการรับประกัน Uptime 99.95%มีมาตรฐานเรียบง่าย เชื่อถือได้ ปลอดภัยสูง และทรงพลังในการที่จะใช้งาน มั่นใจว่า Application จะได้ทำงานในสภาพแวดล้อมที่ดีที่สุดปกติแล้วเราได้ใช้พวก Live ID ของ Hotmail ,MSN อยู่แล้ว และเราสามารถที่จะ Singup ผ่าน Account เหล่านี้ได้ทันที
         Data Center ของ Windows Azure ที่เมือง Dublin ประเทศ Ireland ซึ่งได้รับมาตรฐาน ISO 27001 ทางด้านความปลอดภัย

ติชมบทความได้ที่ https://www.facebook.com/TheRoyalPb เป็นกำลังใจให้นักเขียนมือใหม่ด้วยนะคับ

S(self-employed) -การทำธุรกิจส่วนตัว

ในบทนี้ขอต่อกันที่ตัว...>S<

S(self-employed) -การทำธุรกิจส่วนตัว

          อาชีพอิสระ  หมายถึง  อาชีพที่ประกอบกันเป็นธุรกิจที่ต้องใช้ความรู้หรือทักษะที่ต้องการ  การฝึกฝนอบรมพอสมควรใช้ความคิด กำลังกายค่อนข้างมาก เน้นการพึ่งตนเอง คำว่าอาชีพอิสระมีความหมายคล้ายกันกับอาชีพส่วนตัว ธุรกิจขนาดย่อม การประกอบการขนาดย่อม เป็นต้น
อาชีพอิสระ หมายถึง อาชีพที่มีลักษณะ ดังนี้
 เจ้าของกิจการไม่เป็นลูกจ้าง รับเงินเดือนจากนายจ้าง แต่ได้รับค่าตอบ แทนจากลูกค้า
เจ้าของกิจการเป็นผู้ลงมือกระทำเองในฐานะผู้ปฏิบัติงาน
 มีผู้ช่วยเหลือปฏิบัติงานโดยอาจได้เงินเดือนหรือค่าจ้างเป็นรายชิ้นก็ได้ จำนวนประมาณ 5 คน และใช้ทุนดำเนินการประมาณ 500,000 บาท
ภาพรวมของการทำธุรกิจส่วนตัว
ขายเวลาแลกเงิน จ้างตัวเองทำงาน
ต้องทำงาน ทุกวัน ไม่มีวันหยุด ถ้าหยุดไม่ได้เงิน
ชอบคิดเองทำเอง ควบคุมทุกอย่าง
ชอบอิสระ  เพราะไม่ต้องโดนนายจ้างด่า แต่ ขาดอิสระภาพทางการเงิน

           ขอมาต่อกันในบทความ การทำธุรกิจส่วนตัวซึ่งเป็นเป็นสิ่งที่ ท่านทั้งหลายต้องเคยประสบพบเจอคือ แม่ค้า คือ ผู้หญิง มาขายสินค้า และบริการต่างๆ ซึ่งงานที่ละเอียดอ่อนจะให้ผู้หญิงเป็นผู้จัดการ มีความอ่อนโยน  และรอบครอบ กว่าซึ่งแต่ละคนจะมี ลักษณะของแต่ละบุคคลไป อย่างเช่นตัวอย่าง มารดา ของ ท่าน มีลักษณะอย่างไร ผมขอกล่าวถึง ท่านที่มี มารดามีอาชีพค้าขายหรือ มีพื้นฐานทางครอบครัวคือค้าขาย ซึ่ง ลักษณะของ มารดาผม ไม่ได้ คิดจะล่วงเกินท่านนะครับ (แค่ยกตัวอย่างคงไม่รู้ อิอิ) ปรกติแม่ผม เป็น คนชอบ ธรรมะ ใจเย็น อารมณ์ดี แต่ไม่ค่อย โดนขัดใจ  เวลาวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา ก็ จะพากันไปทำบุญที่วัด เป็นครอบครัวอบอุ่น ซึ่งก็เป็นสิ่งที่ดี ในการดำเนินชีวิต แต่เมื่อได้ลงมาขายของ(ขายก๋วยเตี๋ยว) แล้ว จะ กลายเป็นคนใจร้อนเพราะท่านต้องการให้ ลูกค้า ได้รับ อาหาร ที่สั่งมารับประทาน ให้เร็วที่สุดเพื่อความ พึงพอใจของลูกค้า แม่ทำทุกอย่าง เหมือนกับ ถ้า แยกร่างได้คงจะทำคนเดียว ซึ่งผม ก็ เป็นผู้ช่วย แม่ครัว ๕๕๕
มีหน้าที่ คอย รับ ออร์เดอร์ ลูกค้า แล้วมาส่งให้แม่ครัวทำ ซึ่ง แรกๆ คนมาน้อย ยังไม่ค่อยหิว ก็ ไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่ก็ทำก๋วยเตี๋ยวไปได้เรื่อย แต่ ถ้า ออร์เดอร์เยอะขึ้นเริ่มทำไมทันแล้วหละ คับ กลายเป็น คนพูดเสียงดัง อารมณ์ร้อน ผมเข้าใจนะคับ ว่า ต้องการให้ ลูกค้า ได้รับประทานอาหารได้เร็วๆ ซึ่งผมก็เข้าใจ แต่ที่ ผมคิดได้คือ แม่ผมทำงานโดยอาชีพขายก๋วยเตี๋ยวมาตั้งแต่ อายุ สามสิบ จนมาถึง หกสิบแล้ว ท่านเหนื่อยมากๆ ซึ่งผมเห็น ก็ สงสาร และ คิดอยากจะให้ได้อิสระภาพทางการเงิน เสียที ซึ่งถ้าผมเดินตามรอยแม่แล้ว คงต้อง เป็นวัฎจักร วนเวียนไปอย่างนี้แน่นอนแต่รายได้ก็ ทำให้แม่ ได้ ภูมิใจ เพราะ ได้เงินมาเลยเห็นกัน เลย ตอนขายเสร็จ จึง ทำให้แม่ภูมิใจ กำไร อยู่ที่ 2,000 - 5,000 ถ้าขายดีหน่อย ซึ่งเมื่อคิดถึงรายได้เฉลี่ยแล้ว ก็พอที่จะ หมุนเวียนค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันได้ แต่มันก็ต้อง อาศัยแรงกายแรงใจในการทำงาน ด้วยซึ่ง มันไม่แน่นอนกว่าจะถึงวันนั้นคงแก่ไปเลย ไม่ได้ไปเที่ยวไหนแน่ แต่มันก็คุ้มและสุขใจ กับการได้ทำในสิ่งที่ตนเองรักมาตลอดเพราะไม่ต้องถูกนายจ้างกดดันและตำหนิ ซึ่งผมก็ภูมิใจที่ได้เกิดมาเป็นลูกแม่คับ

       ผมคิดว่านี้เป็นทางเลือกสู่ความมีอิสรภาพทางการเงินนะคับ เพราะเมื่อเจอปัญหาแล้ว ก็ ได้แก้ไขอย่างจริงจังจะทำให้เราได้พัฒนาตนเองมากขึ้นและเรามีความรู้ครบทั้งสี่ด้านของเงินแล้วสิ่งเหล่านี้คือบันไดไปสู่ความมั่งคั่งของเราได้ครับ
ต่อไปเจอกันในบทต่อไป ด้านของ Passive Income
พบกับ ตัว B คับ

>>>เงินสี่ด้านงานสี่ประเภท ตัว B<<<

             

ขอขอบคุณทุกความคิดเห็นที่ ได้ติเพื่อ ต่อ ความสำเร็จในการเขียนบทความ ตอนต่อไปคับ

ความมั่งคั่งของเรา

ความมั่งคั่งของเรา

               ในวันนี้นักเขียนมือใหม่ก็พอมีความรู้เกี่ยวกับรายได้ของพวกเราชาวไทยทุกคนก็ว่าได้นะคับ

ไม่ว่าจะเป็นงานแบบไหน อาชีพอะไร ก็สามารถหาเงินมาใช้จ่ายได้ เหมือนกันนะคับ แต่ที่สำคัญ ต้องเป็นงาน สุจริต และ ชอบโดย กฎหมายนะคับ

มาเริ่มกันเลยดีกว่าเริ่มที่ตัว E

E (Employee) – ลูกจ้าง 

หมายความว่า ผู้ซึ่งตกลงทำงานให้นายจ้างโดยรับค่า จ้างไม่ว่าจะเรียกชื่อเป็นอย่างไรแต่ไม่รวมถึงลูกจ้าง ซึ่งทำงานเกี่ยวกับงานบ้าน อันมิได้มีการประกอบ ธุรกิจรวมอยู่ด้วย ส่วนองค์ประกอบอื่นๆของกฎหมาย คุ้มครองแรงงานยังมีอีกมากหมายที่จะต้องศึกษา ค้นคว้าต่อไปเช่น เรื่องเวลาทำงานปกติ การทำงาน ล่วงเวลา เวลาพัก วันหยุด การทำงานวันหยุด ค่าล่วง เวลา วันลา ค่าตอบแทนในการทำงาน (ค่าจ้าง ค่าล่วง เวลา ค่าทำงานวันหยุด ค่าล่วงเวลาในวันหยุด สิทธิได้ รับค่าจ้างในวันที่ลูกจ้างไม่ได้ทำงาน) สวัสดิการ ความปลอดภัยในการทำงานของลูกจ้าง การควบคุม

   

 - รับค่าตอบแทนเป็นเงินเดือน

 - รายได้ตามตำแหน่งงานที่ได้รับมอบหมาย

 - นายจ้างเป็นผู้กำหนดวิถีชีวิตและเงินเดือนให้คุณ

 - ขาดอิสรภาพ ต้องเซ็นต์ชื่อ ตอกบัตร

 - ตกงานเท่ากับล้มละลาย

 - อยู่ในวงจรหนี้สิน ผ่อนบ้าน ผ่อนรถ ฯลฯ

ตัวอย่าง เช่น 

1.การรับราชการ

• ทหาร
• ตำรวจ
• ครู
• พยาบาล
• ฯลฯ

2.พนักงานรัฐวิสาหกิจ

• สถาบันการบินพลเรือน
• การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย
• การไฟฟ้านครหลวง
• การรถไฟแห่งประเทศไทย
• การประปานครหลวง
• ฯลฯ

3.ลูกจ้าง

• พนักงานบริษัท
• ลูกจ้างรายวัน
• นักเรียน
• ฯลฯ

มีคนกล่าวว่าอยากรวยไม่ต้องไปโรงเรียน ท่านคิดว่าอย่างไรครับ

        ในความคิดของผม ถ้า เรา ทุกคนเกิดมาอ่านออกเขียนได้ เข้าใจภาษาและวัฒนธรรมทุกประเทศทั่วโลกแล้ว การที่เราไม่ต้องไป โรงเรียนก็เป็นไปได้ แต่ในทางกลับกัน เรา ทุกคน ต้องเรียนรู้ภาษาและวัฒนธรรม ของ ทุกประเทศทั่วโลก เพื่อเข้าใจสัญลักษณ์ของภาษาของประเทศนั้นๆๆ

           การเป็นลูกจ้างเปรียบเสมือน การเริ่มต้นกับปัญหา จากเล็กไปใหญ่ เสมือน ตำแหน่ง เล็กๆตั้งแต่   

สิบตรี ไปจนถึง พลเอก ซึ่งต้องเริ่มเรียนรู้จากตัวเอง โดยมีเหตุการณ์ให้ประสบพบเจอ จึงได้ ได้มีประสบการณ์ในการแก้ไขปัญหาตัดสินปัญหาเฉพาะหน้าได้

            ผมไม่เคยคิดดูถูกเงินเลยแม้แต่บาทเดียว ซึ่งเป็นสิ่งที่ใช้แลกเปลี่ยนกัน ทำให้เศรษฐกิจหมุนเวียน

ผมคิดว่าเราทุกคนส่วนใหญ่เริ่มต้นจากการเป็นลูกจ้าง และรับรายได้เป็นรายเดือนกันทุกคนเพราะ ตอนเด็กๆ เราได้ปลูกฝั่งว่าเรียนเก่งๆ จะได้จบมาเป็นเจ้าคน นายคน นะลูก ซึ่งมันเข้ามาอยู่ใน สายเลือดหลอดดำของ พวกเราเกือบทุกคน แต่อันที่จริงเมื่อเรามองถึง ภาพรวม ของ การทำงาน มัน สามารถแยกออกเป็น สี่ ประเภท ตามรูปด้านบน แต่ละส่วนก็มีความสำคัญ แตกต่างกันออกไป แต่ เป้าหมาย ที่แท้จริงต้องเงิน หรือ อิสระภาพทางการเงิน ซึ่ง ต้องใช้ ปัญญา ความกล้าหาญ ประสบการณ์ และ กำลังใจ ในการดำเนินชีวิต และทำหน้าที่ในการเป็นผู้ใช้แรงงาน ทั้งในด้าน การใช้ กำลังกาย และ ใช้สมอง ซึ่งนายจ้างต้องการงาน ที่คุ้มค่าเงินในการจ้าง และทำให้นายจ้างได้รับงานที่มีประสิทธิภาพ และสามารถ นำผลงานไปส่งให้กับ ผู้ต้องการงาน หรือ นายจ้างรายใหญ่ อีกต่อๆไปเป็นทอดๆ ซึ่ง ก็ จะเกิด รายได้มาหมุนเวียนให้กับ ลูกจ้าง ได้ใช้ จ่ายในชีวิตประจำวัน

            ลองคิดดูดีๆนะครับ สมมติว่า ท่านเป็นประชาชนไทย อ่านออกเขียนได้ ซึ่ง ได้เปรียบกว่าคนส่วนใหญ่อีกมากมาย การติดต่อสื่อสาร ก็ไร้ขีดจำกัด สามารถหาข้อมูลข่าวสารได้ไม่หยุดนิ่งแต่คนส่วนใหญ่ก็ นำเวลาเหล่านั้นไปทำอย่างอื่น ที่ ไม่มีประโยชน์ ผมจะไม่อธิบายว่า สิ่งที่ไม่มีประโยชน์ มีอะไรบ้าง

แต่นั้นก็เป็นความชอบของ แต่ละบุคคล ซึ่งทุกคนมีสิทธิเสรีภาพ ในการเลือกเสพข้อมูลข่าวสารอยู่แล้ว

จึงทำให้เวลาที่เสียไป ก็หมดไปกับ ความสุขส่วนตัวของแต่ละบุคคล 

            แล้วทำไมคนเราต้องเป็นลูกจ้างทำไมไม่เป็นนายจ้างหละ คำตอบ ของ ท่าน น่าจะมีอยู่ในใจแล้ว แต่ผม คิดว่า เกิดจากความกลัว เกิดจากการไม่อยากต้องคิดมาก คิดว่า เรียนมา จบ ปริญญาตรี มา ตั้งสี่ปี ต้อง มานั่ง คิดอะไรมากมายอีก แค่ทำงานรับเงินเดือนต่อไปทุกเดือนๆ เท่านั้น นั้นก็เป็นความคิดที่ถูกปลูกฝังมาจากอดีต หรือ พื้นฐานครอบครัวการเลี้ยงดู ซึ่ง ของอย่างนี้ไม่สามารถฝึกกันได้ทั้งหมด ซึ่ง ถ้าเป็นอย่างนั้น ประเทศไทย คงต้องมี อาชีพ ทหาร ทั่วประเทศ มีนักเล่นหุ้นทั่วประเทศ ซึ่งก็ไม่มีใครที่อยากจะทำงานเพื่อเงิน ก็ไม่เกิด สหภาพแรงงาน ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้ จึงต้องมีทั้งผู้ที่มีความรู้   

มีประสบการณ์ที่สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่าง สมบูรณ์แบบ ซึ่ง เขา ไม่สามารถทำงานได้คนเดียว จึงต้องมีลูกจ้าง ช่วยเป็นลูกมือในการ ทำงาน ซึ่ง ไม่มีความรู้ความสามารถ ที่จะมองงานออกได้อย่างรอบคอบ 

        ซึ่งที่กล่าวมาทั้งหมดนี้เป็นเพียงความคิดเห็นของนักเขียนหน้าใหม่ที่ แสดงความคิดและความสนใจในด้านการบริหารการเงิน ซึ่งจะเป็นตัวพัฒนาคุณภาพชีวิตของแต่ละบุคคลในแต่ละช่วงอายุ ให้มีความสุขและปราศจากความเสี่ยงความกังวลได้อย่างหมดห่วง หลังเกษียณอายุแล้ว

  

แล้วพบกับตอนต่อไป กับ

>>>เงินสี่ด้านงานสี่ประเภท ตัว S<<<

             

ขอขอบคุณทุกความคิดเห็นที่ ได้ติเพื่อ ต่อ ความสำเร็จในการเขียนบทความ ตอนต่อไปใน

What do you need in your life? : คุณต้องการอะไรในชีวิตคุณ?

What do you need in your life? : คุณต้องการอะไรในชีวิตคุณ?

Health                                                    สุขภาพ

Friend ship & Family                           เพื่อนและครอบครัว

Physical surroundings                        สภาพแวดล้อมทางกายภาพ

Career                                                    อาชีพ

Finances                                                การเงิน

Fun & Recreation                                ความสนุกและนันทนาการ

Spirituality                                           จิตวิญญาณ

Personal Growth                                  การเติบโต

Love                                           ความรัก